คำอธิบาย
Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon สะท้อนถึงนวัตกรรมในการผลิตไวน์ของ Jacob’s Creek โดยการนำเทคนิคการบ่มแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับวิธีการใหม่ ผลลัพธ์คือไวน์ที่มีความซับซ้อน ความนุ่มนวล และความกลมกล่อมที่โดดเด่น ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ขององุ่นพันธุ์คาเบอร์เน โซวิญองและแหล่งปลูกในออสเตรเลียไว้ได้อย่างชัดเจน
ประวัติความเป็นมา วิธีการผลิตและแหล่งกำเนิด (History)
Jacob’s Creek ก่อตั้งขึ้นในปี 1847 โดย Johann Gramp ผู้อพยพชาวเยอรมันที่เริ่มปลูกองุ่นริมฝั่งลำธาร Jacob’s Creek ใน Barossa Valley ของออสเตรเลียใต้ ตลอดระยะเวลากว่า 175 ปี Jacob’s Creek ได้พัฒนาจนกลายเป็นแบรนด์ไวน์ชั้นนำของออสเตรเลียที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
Double Barrel Cabernet Sauvignon เป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงนวัตกรรมของ Jacob’s Creek ซึ่งผลิตจากองุ่นพันธุ์คาเบอร์เน โซวิญองที่ปลูกในแหล่งปลูกคุณภาพสูงของออสเตรเลียใต้ โดยเฉพาะจากแหล่งปลูกชื่อดังอย่าง Coonawarra
กระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของ Double Barrel คือการบ่มไวน์สองครั้ง:
- บ่มในถังโอ๊คไวน์แบบดั้งเดิมเป็นเวลาหลายเดือน
- หลังจากนั้น นำไปบ่มต่อในถังวิสกี้เก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว (ส่วนใหญ่เป็นถังวิสกี้สก็อต)
การบ่มในถังวิสกี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ นี้ช่วยเพิ่มความซับซ้อนของรสชาติและเนื้อสัมผัสให้กับไวน์ โดยไม่ทำให้สูญเสียเอกลักษณ์ของคาเบอร์เน โซวิญอง
อาหารที่เหมาะสมในการจับคู่ (Food Pairing)
Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและรสชาติที่ซับซ้อน ทำให้เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาหารรสจัดและมีรสชาติเข้มข้น:
- เนื้อวัวคุณภาพสูง: สเต๊กริบอาย เนื้อสันในย่าง หรือโรสบีฟ
- เนื้อแกะ: ขาแกะอบสมุนไพร หรือซี่โครงแกะย่าง
- เนื้อเป็ด: อกเป็ดย่างกับซอสเบอร์รี่
- อาหารเนื้อรมควัน: เนื้อรมควัน หรือเบคอนห่อพรุน
- ชีสแก่: ชีดดาร์เอจด์ บลูชีส หรือพาร์เมซานเอจด์
- อาหารที่มีเห็ดทรัฟเฟิล: พาสต้าซอสทรัฟเฟิล หรือริซอตโต้เห็ดทรัฟเฟิล
นอกจากนี้ ยังเข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีซอสเข้มข้น หรืออาหารที่ผ่านการย่างจนมีรสชาติคาราเมไลซ์ ความซับซ้อนของไวน์จะช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ลักษณะรสสัมผัสและกลิ่น (Palate & Aroma)
Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon มีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นทั้งในแง่ของรสชาติและกลิ่น:
กลิ่น (Aroma): สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของผลไม้สีแดงและดำสุก เช่น แบล็กเคอแรนท์ เชอร์รี่ดำ และบลูเบอร์รี่ ผสานกับกลิ่นของเครื่องเทศ โดยเฉพาะกลิ่นซีดาร์ ยาสูบ และวานิลลา มีโน้ตของไม้โอ๊คที่ซับซ้อน พร้อมด้วยกลิ่นหอมของคาราเมลและถั่วคั่วที่ได้จากการบ่มในถังวิสกี้
รสชาติ (Palate): ให้รสสัมผัสที่เต็มปาก (full-bodied) ด้วยรสของผลไม้สุกเข้มข้น ตามด้วยความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศและรสชาติเอิร์ธตี้ มีโครงสร้างแทนนินที่แข็งแรงแต่นุ่มนวล ด้วยการบ่มในถังวิสกี้ทำให้มีความกลมกล่อมและมีมิติที่ซับซ้อนมากขึ้น จบด้วยรสสัมผัสที่ยาวนานและมีความสมดุลดี มีโน้ตของคาราเมล วานิลลา และสมุนไพรที่ได้จากถังวิสกี้
อุณหภูมิที่เหมาะในการเสิร์ฟ (Serving)
เพื่อให้ได้รับประสบการณ์การดื่มที่ดีที่สุดจาก Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส (60-65 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งเป็นอุณหภูมิห้องเย็น
การเสิร์ฟที่อุณหภูมินี้จะช่วยให้กลิ่นและรสชาติของไวน์เปิดตัวอย่างเต็มที่ โดยไม่สูญเสียความซับซ้อนหรือความนุ่มนวลของแทนนิน หากไวน์อุ่นเกินไป อาจทำให้รสชาติแอลกอฮอล์เด่นชัดมากเกินไป ในทางกลับกัน หากเย็นเกินไป อาจทำให้โครงสร้างแทนนินแข็งกระด้างและกดทับความซับซ้อนของรสชาติ
แนะนำให้เปิดขวดและรินใส่ดีแคนเตอร์ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม เพื่อให้ไวน์ได้ “หายใจ” ซึ่งจะช่วยให้กลิ่นและรสชาติเปิดตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะจะช่วยให้แทนนินนุ่มนวลขึ้นและเผยความซับซ้อนของรสชาติที่ได้จากการบ่มแบบ Double Barrel ได้อย่างเต็มที่
Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon มีศักยภาพในการเก็บบ่มได้ดี สามารถเก็บได้นานถึง 5-8 ปีหรือมากกว่านั้นในสภาพการเก็บที่เหมาะสม การเก็บบ่มจะช่วยพัฒนาความซับซ้อนของรสชาติและกลิ่นให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไวน์รุ่นนี้ก็สามารถดื่มและเพลิดเพลินได้ทันทีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของผู้ดื่ม
ด้วยคุณภาพและความพิเศษของกระบวนการผลิต Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับโอกาสพิเศษ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ไวน์ที่มีความซับซ้อนและเอกลักษณ์เฉพาะตัว